โรคเรื้อรังที่พบบ่อยในผู้สูงอายุ

โรคเบาหวาน ความดันสูง ข้อเสื่อม โรคหัวใจ และภาวะสมองเสื่อมเมื่ออายุเพิ่มขึ้น ร่างกายย่อมมีความเสื่อมถอยตามธรรมชาติ ทำให้ผู้สูงอายุมีความเสี่ยงสูงต่อการเกิด โรคไม่ติดต่อเรื้อรัง (Non-Communicable Diseases – NCDs) โรคเรื้อรังเหล่านี้จำเป็นต้องได้รับการดูแลอย่างต่อเนื่อง เพราะหากปล่อยปละละเลยอาจนำไปสู่ภาวะแทรกซ้อนรุนแรงและส่งผลกระทบต่อคุณภาพชีวิตอย่างมาก การมีความรู้ความเข้าใจเกี่ยวกับโรคและการปรับเปลี่ยนพฤติกรรมจึงเป็นสิ่งสำคัญที่สุดในการอยู่ร่วมกับโรคเหล่านี้ได้อย่างมีความสุข

1. โรคเบาหวาน (Diabetes Mellitus)

คำอธิบาย: เป็นภาวะที่ร่างกายผลิตอินซูลินได้น้อยลง หรือมีภาวะดื้อต่ออินซูลิน ทำให้ระดับน้ำตาลในเลือดสูงกว่าปกติ

แนวทางการดูแลและป้องกัน รายละเอียดการปฏิบัติ
ควบคุมอาหาร ลดแป้ง น้ำตาล และไขมันอิ่มตัว เน้นอาหารที่มีใยอาหารสูง เช่น ผัก ผลไม้ (ที่ไม่หวานจัด) และธัญพืชไม่ขัดสี
การออกกำลังกาย ออกกำลังกายระดับปานกลางสม่ำเสมอ เช่น การเดินเร็ว หรือการออกกำลังกายในน้ำ ช่วยให้เซลล์ไวต่ออินซูลินมากขึ้น
การใช้ยา/อินซูลิน ใช้ยาหรือฉีดอินซูลินตามคำแนะนำของแพทย์อย่างเคร่งครัด ห้ามปรับยาเอง
การตรวจวัด หมั่นตรวจวัดระดับน้ำตาลในเลือดด้วยตัวเอง และตรวจ HbA1c ตามนัดแพทย์
ข้อควรระวัง ดูแลเท้าอย่างเคร่งครัด เพราะเป็นส่วนที่เสี่ยงต่อภาวะแทรกซ้อน (แผลติดเชื้อ)

2. โรคความดันโลหิตสูง (Hypertension)

คำอธิบาย: ภาวะที่ความดันในหลอดเลือดสูงกว่าปกติ (โดยทั่วไป $140/90 \text{ mmHg}$ หรือสูงกว่า) เป็นสาเหตุหลักของโรคหัวใจและโรคหลอดเลือดสมอง

แนวทางการดูแลและป้องกัน รายละเอียดการปฏิบัติ
ควบคุมอาหาร ลดการบริโภคโซเดียม (เกลือ, น้ำปลา, ซีอิ๊ว) ให้เหลือไม่เกิน $1,500 \text{ มก./วัน}$ (ประมาณ $\frac{3}{4}$ ช้อนชา) และเพิ่มอาหารที่มีโพแทสเซียมสูง เช่น กล้วย ผักใบเขียว
การออกกำลังกาย ออกกำลังกายแบบแอโรบิก เช่น เดิน, ปั่นจักรยานเบา ๆ วันละ $30$ นาที ช่วยให้หลอดเลือดมีความยืดหยุ่น
การจัดการความเครียด ฝึกการหายใจ, นั่งสมาธิ, ฟังเพลง เพราะความเครียดทำให้ความดันพุ่งสูง
การใช้ยา กินยาลดความดันตามที่แพทย์สั่งอย่างต่อเนื่อง ห้ามหยุดยาเองแม้ความดันจะกลับมาเป็นปกติแล้ว
การตรวจวัด วัดความดันที่บ้านอย่างสม่ำเสมอ และบันทึกผลเพื่อแจ้งแพทย์

3. โรคหัวใจ (Cardiovascular Diseases)

คำอธิบาย: ครอบคลุมหลายภาวะ เช่น โรคหลอดเลือดหัวใจตีบ หรือภาวะหัวใจล้มเหลว มักมีความสัมพันธ์กับความดันสูง ไขมันในเลือดสูง และเบาหวาน

แนวทางการดูแลและป้องกัน รายละเอียดการปฏิบัติ
ควบคุมปัจจัยเสี่ยง จัดการโรคเบาหวานและความดันโลหิตสูง ให้ได้ตามเป้าหมาย และควบคุมระดับไขมันในเลือด (LDL)
อาหารสุขภาพ เน้น อาหารเมดิเตอร์เรเนียน (ผัก, ผลไม้, ปลา, น้ำมันมะกอก) และลดอาหารแปรรูปหรือเนื้อสัตว์ติดมัน
การออกกำลังกาย ออกกำลังกายอย่างเหมาะสมตามที่แพทย์แนะนำ (ปรึกษาแพทย์ก่อนเริ่มโปรแกรมออกกำลังกาย)
ข้อควรระวัง สังเกตอาการ เช่น เจ็บหน้าอก, เหนื่อยง่ายผิดปกติ, หายใจลำบาก, หรือเท้าบวม หากมีอาการเหล่านี้ต้องรีบพบแพทย์ทันที

4. ภาวะข้อเสื่อม (Osteoarthritis)

คำอธิบาย: การที่กระดูกอ่อนที่หุ้มข้อต่อเกิดการสึกหรอ โดยเฉพาะที่ข้อเข่าและข้อสะโพก ทำให้เกิดอาการปวดและข้อติดแข็ง

แนวทางการดูแลและป้องกัน รายละเอียดการปฏิบัติ
ควบคุมน้ำหนัก ลดน้ำหนักตัว เพื่อลดภาระการรับน้ำหนักของข้อต่อเข่าและสะโพก
การออกกำลังกาย เน้นการเสริมสร้าง กล้ามเนื้อรอบข้อต่อ (Quadriceps) เช่น การบริหารกล้ามเนื้อต้นขาด้านหน้า โดย หลีกเลี่ยงการออกกำลังกายที่มีแรงกระแทกสูง
ทางเลือกที่เหมาะสม ออกกำลังกายในน้ำ (Water Aerobics) และการทำกายภาพบำบัด
การบรรเทาอาการ ใช้ยาแก้ปวด/ต้านการอักเสบ หรือการใช้แผ่นประคบร้อน/เย็นตามคำแนะนำ
อุปกรณ์ช่วยพยุง ใช้ไม้เท้าหรืออุปกรณ์ช่วยเดินเพื่อลดแรงกดที่ข้อต่อเมื่อจำเป็น

5. ภาวะสมองเสื่อม (Dementia)

คำอธิบาย: กลุ่มอาการที่เกิดจากการทำงานของสมองถดถอย ทำให้ความสามารถด้านความจำ ความคิด และการใช้ชีวิตประจำวันลดลงเรื่อย ๆ (เช่น โรคอัลไซเมอร์)

แนวทางการดูแลและป้องกัน รายละเอียดการปฏิบัติ
กระตุ้นสมอง ทำกิจกรรมที่ใช้ความคิด และทักษะใหม่ ๆ อยู่เสมอ เช่น อ่านหนังสือ, เล่นเกมกระดาน, เรียนภาษาใหม่, ฝึกทำ Crossword
การเข้าสังคม เข้าร่วมกิจกรรมทางสังคมเพื่อ กระตุ้นปฏิสัมพันธ์ และป้องกันความเหงา ซึ่งช่วยชะลอการเสื่อมของสมอง
ดูแลสุขภาพกาย ควบคุมโรคเรื้อรังอื่น ๆ (ความดัน, เบาหวาน) ให้ดี เพราะ สุขภาพกายส่งผลโดยตรงต่อสุขภาพสมอง
การจัดสภาพแวดล้อม สร้างสภาพแวดล้อมที่ปลอดภัย และมีกิจวัตรประจำวันที่สม่ำเสมอ เพื่อลดความสับสนในผู้ที่มีอาการแล้ว
การพักผ่อน นอนหลับให้เพียงพอและมีคุณภาพ

สรุป: การดูแลที่ครอบคลุมคือสิ่งสำคัญ

การดูแลผู้สูงอายุที่มีโรคเรื้อรังจำเป็นต้องอาศัย การดูแลที่ครอบคลุม (Holistic Care) ซึ่งหมายถึงการดูแลทั้งร่างกาย จิตใจ และการปรับพฤติกรรม การติดตามการรักษาของแพทย์อย่างสม่ำเสมอ ร่วมกับการควบคุมอาหาร การออกกำลังกายที่เหมาะสม และการจัดการความเครียด จะเป็นกุญแจสำคัญที่ช่วยให้ผู้สูงอายุสามารถอยู่ร่วมกับโรคเรื้อรังได้อย่างมีคุณภาพ และมีชีวิตที่ยืนยาวอย่างมีความสุข

แชร์บทความให้ความรู้

Facebook
Email
Threads
X